7 วิธีรักษาความปลอดภัยของอีเมลที่ดีที่สุด – คุณทำงานได้จากทุกที่ไม่ว่าจะที่บ้านหรือที่ไหน แต่คุณจะทำงานอย่างปลอดภัยจากทุกที่ได้อย่างไร
ความปลอดภัยทางไซเบอร์กลายเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ของทั้งภาคธุรกิจและบุคคลทั่วไป การที่ทั้งบอทและตัวอาชญากรเองคอยสอดส่องหาช่องโหว่และเป้าหมายใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ทำให้ยิ่งจำเป็นต้องตระหนักรู้และเตรียมพร้อมรับมือการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นได้
อีเมลอยู่กับเรามาหลายสิบปีแล้วและกลายมาเป็นช่องทางเริ่มเปิดการโจมตีทางไซเบอร์ที่ถูกใช้มากที่สุด บริษัทหลายแห่งจึงย้ำเตือนพนักงานอยู่เป็นประจำว่าห้ามเปิดไฟล์แนบหรือเข้าลิงก์ที่เราไม่ไว้ใจหรือไม่รู้ที่มาโดยเด็ดขาด แต่ถึงแม้ว่าพนักงานจะทราบถึงอันตรายนี้ดีกว่าที่ผ่านมาเพียงใด ปัญหานี้ก็ยังคงไม่หมดไป แน่นอนว่ากระทั่งทุกวันนี้ก็ยังพบว่า 91% ของการโจมตีทางไซเบอร์เริ่มต้นด้วยการใช้อีเมลฟิชชิ่งล้วงข้อมูล เมื่อดูประกอบกับรายงานว่า 90% ของการถูกเจาะข้อมูลได้สำเร็จเกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์ ก็จะเห็นได้ชัดว่าการให้ความรู้ด้านนี้แก่พนักงานมีความสำคัญสูงยิ่งกว่าที่เคยมีมา
แต่โชคดีที่การกระตุ้นให้พนักงานใช้คอมมอนเซนส์ไม่ใช่วิธีการเดียวที่จะช่วยป้องกันข้อมูลที่มีค่าของคุณได้
การรักษาความปลอดภัยของอีเมลคืออะไร
การรักษาความปลอดภัยของอีเมลไม่ใช่แค่การฝากทุกอย่างไว้กับผู้ใช้ว่าจะไม่ปล่อยให้ซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายเข้ามาภายในระบบของคุณได้ แต่เป็นการใช้งานซอฟต์แวร์และการให้ความรู้แก่พนักงานผสานรวมกันซ้อนกันหลายชั้น เพื่อให้มั่นใจได้ว่าอาชญากรไม่สามารถลักลอบเข้ามาในระบบขององค์กรคุณได้
แผนการรักษาความปลอดภัยของอีเมลที่แน่นหนา จะผสานรวมประสิทธิภาพของการให้ความรู้แก่พนักงาน ระบบการกรองสำหรับอีเมลโดยเฉพาะ ไฟร์วอล และเครื่องมือตรวจจับเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้ซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายเข้ามาในระบบได้ และหากหลุดเข้ามาได้ก็สามารถกำจัดได้อย่างทันท่วงที
แผนป้องกันการฟิชชิ่งล้วงข้อมูล
74% ของพนักงานคาดว่าการทำงานจากระยะไกลจะกลายเป็นเรื่องปกติ ซึ่งนั่นหมายความว่าจะมีพนักงานที่ได้ประโยชน์จากการควบคุมดูแลโดยตรงน้อยลง และมีพนักงานที่ใช้อุปกรณ์ที่อยู่นอกระบบป้องกันภายในของบริษัทเชื่อมต่อเข้ามาใช้งานระบบส่วนกลางเป็นจำนวนมากขึ้น
นี่คือเหตุผลสำคัญที่ต้องพัฒนาแผนการป้องกันเพื่อรับมือกับการโจมตีด้วยการฟิชชิ่งล้วงข้อมูลให้แน่นหนา
ข่าวดีคือการวางแผนป้องกันนี้ไม่จำเป็นต้องซับซ้อนยุ่งยากเสมอไป และคุณสามารถกำจัดความเสี่ยงส่วนใหญ่ได้ด้วยขั้นตอนต่อไปนี้
สำรองไฟล์สำคัญของคุณ
การฟิชชิ่งมีเป้าหมายที่จะเข้าถึงข้อมูลลับของคุณ เมื่อผู้โจมตีเข้ามาในระบบของคุณได้แล้วก็อาจจะคัดลอก ทำลาย หรือล็อคข้อมูลของคุณไว้ด้วยวิธีการโจมตีด้วยซอฟต์แวร์เรียกค่าไถ่
แน่นอนว่าข้อมูลเหล่านี้มีมูลค่าต่ออาชญากรสูงกว่าการขโมยเงินตรงๆ เสียอีก ยกตัวอย่าง เช่น เมื่อปี 2014 ข้อมูลบันทึกทางการแพทย์ของบุคคลทำเงินให้กับแฮ็คเกอร์ได้สูงกว่าข้อมูลบัตรเครดิตของคนๆ นั้นเสียอีก
อย่างน้อยที่สุดคุณต้องทำให้มั่นใจได้ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับข้อมูลของคุณ ก็จะสามารถกู้คืนกลับมาได้ วิธีที่ดีที่สุดคือการทำสำเนาข้อมูลสำคัญเก็บแยกไว้ในที่ที่แฮ็คเกอร์เอื้อมไม่ถึง นั่นหมายความว่าต้องเก็บข้อมูลสำรองไว้นอกเครือข่ายหลัก และถ้าเป็นไปได้ให้ตัดการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตออกไปเลย
หลังจากที่กู้ระบบรักษาความปลอดภัยกลับมาได้แล้ว วิธีนี้จะช่วยให้คุณสามารถกู้ข้อมูลใดๆ ก็ตามที่สูญเสียไปเพราะมัลแวร์หรือซอฟต์แวร์เรียกค่าไถ่กลับคืนไปในระบบได้ ย่นระยะเวลาที่ไม่สามารถทำงานได้ลงอย่างมหาศาล
ให้ความรู้แก่พนักงานของคุณและจัดซ้อมเพื่อสาธิตการถูกฟิชชิ่งเป็นประจำ
เราได้พูดถึงความสำคัญของการให้ความรู้แก่พนักงานเกี่ยวกับอันตรายจากการฟิชชิ่งไปบ้างแล้ว แต่โชคไม่ดีที่ข้อมูลสถิติระบุว่าการฟิชชิ่งยังเป็นปัญหาในวงกว้าง และจุดที่อ่อนแอที่สุดในห่วงโซ่ระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ก็ยังคงเป็นมนุษย์ดังเดิม
พนักงานบางคนอาจฟังคำแนะนำและคำสั่งของคุณแล้วไม่เชื่อ ดังนั้นจึงควรให้ลองสัมผัสกับสถานการณ์จำลองด้วยตัวเองเพื่อให้เห็นภาพ บริษัทส่วนใหญ่มีการซ้อมหนีไฟและซ้อมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ เป็นปกติอยู่แล้ว การซ้อมเพื่อสาธิตการถูกฟิชชิ่งก็ไม่ต่างอะไรกับการซ้อมเหล่านั้น การสาธิตสามารถทำได้ง่ายๆ แค่ปิดการเข้าถึงอีเมลและเครือข่ายโฟลเดอร์ของพนักงาน แล้วขอให้พวกเขาทำงานต่ออย่างเต็มความสามารถ เพียงเท่านี้ทุกคนก็จะเข้าใจในสิ่งที่คุณบอกอย่างชัดเจนแล้ว
เข้ารหัสการสื่อสารอีเมลขาเข้าและขาออกด้วยระบบอัตโนมัติ
การเข้ารหัสอีเมลควรนำมาใช้เป็นมาตรฐานกับทุกบัญชีอีเมลที่มี แต่ในความเป็นจริงมักไม่เป็นเช่นนั้นทั้งที่การเข้ารหัสเป็นส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ในแผนการป้องกันทุกแผน
อีเมลฟิชชิ่งไม่จำเป็นต้องส่งมาจากผู้โจมตีโดยตรงเสมอไป เพราะอาชญากรสามารถแอบแทรกเนื้อหาที่เป็นอันตรายลงในอีเมลที่กำลังถูกส่งไปหาคุณได้ อีกทั้งการไม่เข้ารหัสยังอาจทำให้ข้อมูลลับรั่วไหลได้ การเพิ่มการเข้ารหัสลงในบริการอีเมลของคุณจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าข้อความระหว่างผู้ส่งกับผู้รับจะไม่ถูกเปลี่ยนแปลงระหว่างทาง และป้องกันไม่ให้ข้อมูลในอีเมลรั่วไหลออกไป
นำการตรวจสอบยืนยันแบบหลายปัจจัยมาใช้
รหัสผ่านเพียงอย่างเดียวไม่สามารถรักษาความปลอดภัยได้อย่างสมบูรณ์ รหัสผ่านอาจทำให้คุณผิดหวังได้ด้วยเหตุผลหลายประการ จึงไม่ควรใช้เป็นปัจจัยเดียวในการยืนยันอนุญาตการเข้าถึงข้อมูล
การตรวจสอบยืนยันแบบหลายปัจจัยสามารถเพิ่มระดับความปลอดภัยให้กับจุดลงชื่อใช้งานได้ และอาจทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้รหัสผ่านเลยด้วยซ้ำ การตรวจสอบยืนยันรูปแบบนี้จะมีการร้องขอข้อมูลอื่นๆ เพิ่มก่อนอนุญาตให้เข้าใช้งาน เช่น ร้องขอรหัสที่ส่งไปทาง SMS หรือแอพบนโทรศัพท์มือถือ
แม้ว่าชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านจะถูกขโมยไปได้ แต่ระบบนี้จะบังคับให้อาชญากรต้องเข้าถึงโทรศัพท์มือถือของเจ้าของรหัสผ่านด้วยจึงจะเข้าไปในระบบได้
ใช้เกตเวย์รักษาความปลอดภัย
เกตเวย์รักษาความปลอดภัยของอีเมลสามารถป้องกันระบบของคุณจากการฟิชชิ่งล้วงข้อมูลได้โดยอัตโนมัติ ด้วยการสกัดกั้นอีเมลที่เป็นอันตรายไว้ตั้งแต่ยังส่งไม่ถึงที่หมาย
เกตเวย์ส่วนใหญ่จะตรวจสอบข้อมูลของผู้ส่งและสแกนเนื้อหาในอีเมล ถ้าพบความผิดปกติก็จะกักกันอีเมลไว้ ในกรณีส่วนใหญ่ผู้ดูแลระบบจะสามารถเข้าถึงข้อความที่ถูกกักกันไว้ได้เพื่อตรวจดูอันตรายอย่างละเอียด แต่พนักงานทั่วไปจะไม่สามารถยุ่งเกี่ยวกับข้อความต้องสงสัยเหล่านั้นได้เลย
แฮ็คตัวเอง
ถ้าคุณมีทักษะมากพอก็สามารถลองโจมตีองค์กรของตัวเองด้วยการฟิชชิ่งได้ ซึ่งนั่นก็คือการแฮ็คแบบหมวกขาว (White hat hacking) โจมตีระบบความปลอดภัยของคุณเองเพื่อค้นหาช่องโหว่ให้พบแล้วแก้ไข
ถ้าคุณทำเองไม่ได้ การจ้างมืออาชีพมาจัดการให้ก็เป็นเรื่องคุ้มค่าถ้าหากคุณคิดว่าธุรกิจของคุณอาจตกอยู่ในอันตราย
พิจารณานำโซลูชั่นรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์แบบรวมอยู่ในระบบมาใช้
การฟิชชิ่งล้วงข้อมูลเป็นเพียงส่วนหนึ่งของภัยด้านความปลอดภัยสมัยใหม่ ซึ่งนอกจากนี้ยังมีโปรแกรมบันทึกการพิมพ์ การโจมตีแบบหลอกล่อให้เข้าใช้แล้วสลับปลายทาง และโทรจันที่อาจเป็นภัยคุกคามความปลอดภัยต่อข้อมูลในธุรกิจของคุณได้
แม้ว่าการรักษาความปลอดภัยของอีเมลจะเป็นเรื่องสำคัญ แต่ก็ไม่ควรละเลยภัยอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับระบบการดำเนินธุรกิจส่วนอื่นๆ ได้ ดังนั้นการนำโซลูชั่นรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์แบบรวมอยู่ในระบบมาใช้ ซึ่งสามารถช่วยป้องกันอันตรายได้ในทุกแง่มุมจึงเป็นเรื่องคุ้มค่าสำหรับธุรกิจแทบทุกแห่ง
ปรึกษาเราวันนี้ เราสามารถเสริมปราการป้องกันภัยทางไซเบอร์ให้กับธุรกิจของคุณได้ไม่ว่าจะเป็นภัยจากทางใดก็ตาม และไม่ว่าคุณจะมีแผนก IT ประจำบริษัทหรือไม่ เราก็พร้อมทำงานร่วมกับคุณเพื่อให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลและระบบของคุณจะได้รับการป้องกันอย่างแน่นหนา รับมือกับการโจมตีทุกรูปแบบที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างไร้กังวล