แค่ช่องโหว่เพียงจุดเดียวก็ทำธุรกิจของคุณพังได้แล้ว
ในตอนนี้มีอีกหนึ่งโรคร้ายที่ระบาดแพร่กระจายไปทั่วโลกที่ไม่ใช่ Covid-19นั่นก็คือโรคอาชญากรรมทางไซเบอร์ เหยื่อของโรคนี้มีทั้งบุคคลทั่วไป หน่วยงานธุรกิจ และหน่วยงานรัฐบาล ภัยร้ายนี้ระบาดไปทั่วทั้งโลกดิจิตอลสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจโลกไปกว่าล้านล้านดอลลาร์ ความปลอดภัยทางไซเบอร์จึงกลายมาเป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่งของบริษัท รัฐบาล และคนทั่วไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่คุณไม่อาจละเลยได้ ในแต่ละปีมีอาชญากรรมทางไซเบอร์เกิดขึ้นทั่วโลกหลายหมื่นคดี ในปี 2020 มีรายงานการเจาะระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์สำเร็จกว่า 30,000 ครั้งและคาดว่าในปี 2021 อาชญากรรมทางไซเบอร์อาจสร้างความเสียหายทั่วโลกเป็นมูลค่ากว่า 6 ล้านล้านดอลลาร์โรคระบาดทางดิจิตอลนี้ทั้งอันตราย สร้างความเสียหายรุนแรง และตรวจจับได้ยาก
อาชญากรรมทางไซเบอร์คืออันตรายอันดับหนึ่งของทุกบริษัททั่วทั้งโลก และเพียงแค่ช่องโหว่จุดเดียวก็ทำให้อาชญากรเข้าถึงข้อมูลลับของคุณแล้วขโมยข้อมูล เทคโนโลยี และทรัพย์สินของคุณได้แล้ว โรคนี้ไม่มีวัคซีนแก้ไขแต่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ มาตรการเดียวที่ช่วยคุณป้องกันโรคนี้ได้คือการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ หากองค์กรของคุณละเลยเรื่องความจำเป็นในการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ก็อาจเป็นเหตุให้ตัวคุณและบริษัทของคุณสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปได้
อาชญากรรมทางไซเบอร์และการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์คืออะไร
อาชญากรรมทางไซเบอร์คือการก่ออาชญากรรมที่มุ่งเป้าขโมยข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลลับของบริษัทด้วยการโจมตีเครือข่ายคอมพิวเตอร์อย่างต่อเนื่องเป้าหมายของอาชญากรคือการติดตาม ขโมย นำข้อมูลไปขาย หรือยึดไว้เพื่อเรียกค่าไถ่ ผู้ก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์มีทั้งที่ทำคนเดียวและทำกันเป็นองค์กร
การก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์เพื่อเจาะข้อมูลอาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่หรือขนาดย่อม หน่วยงานรัฐทั้งระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ ผู้ให้บริการด้านสาธารณสุข หรือบุคคลทั่วไป ทุกคนล้วนเสี่ยงเท่ากันหมด
- มีชาวอเมริกันถึง 60 ล้านคน เคยถูกขโมยตัวตน
- 43%ของการโจมตีทางไซเบอร์มุ่งเป้าไปที่ธุรกิจขนาดย่อม
- 70% ของธุรกิจขนาดย่อมไม่พร้อมรับมือกับการโจมตีทางไซเบอร์
- 67% ของสถาบันทางการเงินรายงานว่ามีการโจมตีทางไซเบอร์เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา
- 82% ขององค์กรสาธารณสุขเคยถูกขโมยข้อมูลของคนไข้หรือทำให้สูญหาย
นี่คือเหตุผลที่ต้องมีการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งนี่เป็นวิธีเดียวที่จะยับยั้งการแพร่กระจายของไวรัสนี้ได้ การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์คือการนำระบบทั้งทางซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์มาใช้ในการป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์อาจอยู่ในรูปแบบของ:
- การรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย
- การสำรองข้อมูลและเข้ารหัสไฟล์สำคัญ
- การประเมินความเสี่ยงและระบบติดตามตรวจสอบแบบเรียลไทม์
- การใช้ “การอนุญาตสิทธิ์พิเศษ (Special permissions)” และ “ระบบรักษาความปลอดภัยของแอพพลิเคชั่น (Application security)”
การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์แต่ละรูปแบบจะเหมาะสำหรับป้องกันภัยทางไซเบอร์แบบใดแบบหนึ่ง แต่ไม่ว่าจะอย่างไรการป้องกันที่ดีที่สุดต้องเริ่มต้นด้วยความรู้ความเข้าใจ
ซอฟต์แวร์เรียกค่าไถ่คืออะไร
ซอฟต์แวร์เรียกค่าไถ่คือส่วนที่เลวร้ายที่สุดของการก่ออาชญากรทางไซเบอร์ที่มาในรูปแบบของมัลแวร์ ซอฟต์แวร์เรียกค่าไถ่ออกแบบมาเพื่อโจมตีไฟล์ระบบของบริษัทด้วยการเข้ารหัสไฟล์ทำให้ใช้งานไม่ได้ซึ่งอาจทำให้ระบบล่มทั้งระบบและเรียกใช้บริการใดๆ ไม่ได้เลย
จากนั้นอาชญากรที่สร้างซอฟต์แวร์เรียกค่าไถ่จะขู่ว่าจะเผยแพร่หรือขายดาต้า ข้อมูล และเทคโนโลยีที่เก็บไว้ในไฟล์ที่ถูกเข้ารหัสใหม่เหล่านี้ เว้นแต่จะยอมจ่ายค่าไถ่มูลค่ามหาศาล และแม้ว่าจะยอมจ่ายค่าไถ่ให้อาชญากรทางไซเบอร์ไปก็ไม่มีอะไรรับรองว่าจะได้รับการถอดรหัสไฟล์หรือจะไม่ถูกนำข้อมูลที่ขโมยไปได้ไปขาย
ในปี 2021 คาดว่าจะเกิดการโจมตีด้วยซอฟต์แวร์เรียกค่าไถ่หนึ่งครั้งในทุก 5 วินาที
การโจมตี DDOS คืออะไร
การโจมตี DDOS (ปฏิเสธการให้บริการ) คือการโจมตีทางไซเบอร์ด้วยการถล่มทราฟฟิคปริมาณมหาศาลใส่เครือข่ายทำให้ไม่สามารถทำงานตามปกติได้ เมื่อโจมตีด้วย DDOS ได้สำเร็จอาชญากรก็จะเริ่มขโมยข้อมูลส่วนบุคคลจากทราฟฟิคปกติของเว็บไซต์หรือเรียกค่าไถ่แลกกับการหยุดโจมตี
เมื่อเครือข่าย 5G เติบโตขึ้นการโจมตีแบบ DDOS ที่ขนาดใหญ่กว่าเดิมก็เกิดบ่อยขึ้นตามไปด้วย
แล้วทำไมคุณจึงควรสนใจเรื่องนี้
เราชวนคุณไปดูกันว่า นั่นสิ ทำไมคุณควรสนใจเรื่องนี้ ภัยทางไซเบอร์และความจำเป็นในการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์เหมือนกับโรคระบาด Covid-19 ตรงที่เป็นภัยที่ทำให้เกิดอันตรายไปทั่วโลก แม้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณอาจไม่ตกเป็นเป้าแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าข้อมูลของลูกค้าคุณจะปลอดภัยตามไปด้วย และไม่ว่าจะเป็นบริษัทขนาดใหญ่หรือขนาดย่อม เมื่อถูกโจมตีก็มีโอกาสเสียหายหนักจนแทบฟื้นคืนเป็นปกติไม่ได้ไม่ต่างกัน ในปี 2018 การโจมตีทางไซเบอร์ทำให้ธุรกิจขนาดย่อมได้รับความเสียหายเฉลี่ยสูงถึง 34,604 ดอลลาร์
นอกจากนี้การสูญเสียความไว้วางใจของลูกค้าอาจสร้างความเสียหายหนักกว่าทรัพย์สินที่สูญเสียไปจากการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ไม่ดีพอเสียอีก
ถ้าคุณหรือบริษัทของคุณต้องการป้องกันภัยจากอาชญากรรมทางไซเบอร์ที่อันตรายขึ้นทุกวัน การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่มีประสิทธิภาพคือทางเดียวที่สามารถปิดช่องโหว่ให้คุณได้
เรายินดีช่วยเหลือให้คุณมีแผนการที่รัดกุมแน่นหนาพร้อมรับทุกสถานการณ์ ติดต่อขอข้อมูลเกี่ยวกับแผนการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์และแผนการสำรองข้อมูลจากเราได้วันนี้!